1.ความหมายคำว่า
กฎหมายรัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติ พระราชกำหนด พระราชกฤษฎีกา เทศบัญญัติ เหมือนกันหรือต่างกันอย่างไร อธิบาย
ตอบ กฎหมายรัฐธรรมนูญ คือ กฎหมายสูงสุดที่ใช้ในการปกครองประเทศ
พระราชบัญญัติ คือ กฎหมายที่
ใช้บังคับอยู่เป็นประจำตามปกติ เพื่อวางกฎระเบียบบังคับความประพฤติของบุคคลรวมทั้งองค์กรและเจ้าหน้าที่ของ
รัฐ
พระราชกำหนด คือ เป็นกฎหมายที่ตราขึ้นโดยฝ่ายบริหารในสถานการณ์อันมีความจำเป็นรีบด่วนเพื่อ
ประโยชน์แห่งรัฐ
พระราชกฤษฎีกา คือ
บทบัญญัติแห่งกฎหมายที่พระมหากษัตริย์ทรงตราขึ้นโดยอาศัยอำนาจตามรัฐธรรมนูญพระราชบัญญัติ เพื่อใช้ในการบริหารราชการแผ่นดิน โดยคำแนะนำของคณะรัฐมนตรี
มีศักดิ์ต่ำกว่ารัฐธรรมนูญ
เทศบัญญัติ คือ กฎหมายที่เทศบาลออกเพื่อใช้บังคับในเขตเทศบาลทั้งนี้อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติเทศบาล
พ.ศ.2496 ผู้เสนอร่างเทศบัญญัติ ได้แก่ นายกเทศมนตรี สมาชิกสภาเทศบาล
หรือราษฎรผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเทศบาลตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอข้อบัญญัติท้องถิ่น
พ.ศ.2542
ต่างกัน เพราะ กฎหมายบางกฎหมายมีข้อบังคับใช้ไม่เหมือนกัน และกฎหมายยังช่วยให้มีความสงบสุข ไม่เกิดความวุ่นวายในสังคม กติกา
มาบังคับใช้ให้ทุกคนอยู่ในกฎระเบียบ
2.กฎหมายรัฐธรรมนูญ ที่ใช้ในการปกครองประเทศ ปัจจุบันเป็นอย่างไร ในการกำหนดออกกฎหมายสิ่งที่ต้องคำนึงถึงมากที่สุดของการประกาศใช้เป็นอย่างไร หากเราไม่มีรัฐธรรมนูญนักศึกษาคิดว่าจะเป็นอย่างไร อธิบาย
2.กฎหมายรัฐธรรมนูญ ที่ใช้ในการปกครองประเทศ ปัจจุบันเป็นอย่างไร ในการกำหนดออกกฎหมายสิ่งที่ต้องคำนึงถึงมากที่สุดของการประกาศใช้เป็นอย่างไร หากเราไม่มีรัฐธรรมนูญนักศึกษาคิดว่าจะเป็นอย่างไร อธิบาย
ตอบ กฎหมายรัฐธรรมนูญ
ที่ใช้ในการปกครองประเทศ ปัจจุบัน มีการให้อำนาจฝ่ายบริหารโดยไม่มีการถ่วงดุล
ทำให้ฝ่ายบริหารมีความเฉียบขาดในการจัดการเรื่องต่าง ๆ ด้วยตนเอง
ซึ่งอาจทำให้เกิดความฉับไวในการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน
แต่ก็นำมาซึ่งการใช้อำนาจรัฐในทางที่ผิดโดยมีการสั่งลงโทษประหารชีวิตผู้บริสุทธิ์ไปแล้วเป็นจำนวนมาก
ในการกำหนดออกกฎหมายสิ่งที่ต้องคำนึงถึงมากที่สุด การประกาศใช้ควรมีกฎเกณฑ์ มีกติกา
ระเบียบวัฒนธรรมและประเพณีของแต่ละสังคมเป็นเครื่องยึดถือปฏิบัติ
เพื่อให้สังคมมีระเบียบ ทำให้เกิดความสงบ
เรียบร้อยและอยู่อย่างสันติสุข
ซึ่งกฎเกณฑ์หรือกติกาของสังคมดังกล่าวได้แก่รัฐธรรมนูญและกฎหมายต่าง ๆ
ที่ใช้บังคับอยู่ในสังคม
หากเราไม่มีรัฐธรรมนูญ กระผมคิดว่า
บ้านเมืองจะไม่มีความสงบสุข
เกิดความวุ่นวายในสังคม
ไม่มีกฎระเบียบ กติกา
มาบังคับใช้ให้ทุกคนอยู่ในกฎระเบียบและไม่มีใครเกรงกลัวกฎหมาย คิดจะทำอะไรก็ไม่มีความผิด
3.ในสภาพปัจจุบันการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 112
มีนักวิชาการต้องการจะ แก้ไขท่านคิดว่าควรที่จะแก้ไขหรือไม่ประเด็นใดอธิบายให้เหตุผล
ตอบ ไม่ควรแก้ไข เพราะ เมื่อพิจารณาบทบัญญัติมาตรา 112 แห่งประมวลกฎหมายอาญาดังกล่าวจะเห็นได้ว่า
โดยเนื้อหาแล้วก็เหมือน
กับความผิดฐานหมิ่นประมาทบุคคลธรรมดา กล่าวคือ
การจะหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์หรือหมิ่นประมาทบุคคลธรรมดาก็ใช้นิยามเดียวกัน คือ “การใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สามอันน่าจะทำให้ผู้อื่นเสียหาย” จะมีส่วนที่แตกต่างกันเพียงสามประการ คือ
1.
หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์มีโทษหนักกว่าหมิ่นประมาทบุคคลธรรมดา
2.
หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ไม่อาจนำเหตุให้กระทำการได้ตามมาตรา 329
และมาตรา 330มาอ้างได้ และ
3.
ความผิดฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์เป็นความผิดเกี่ยวด้วยความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร
4.การที่มวลมหาประชาชนมีความไม่เห็นด้วยกับการเลือกตั้งและให้รัฐบาลลาออกจากการรักษาการและจะปฏิรูป
ท่านในฐานะติดตามข่าวสารบ้านเมืองขณะนี้ ท่านเห็นด้วยหรือไม่
ให้ยกเหตุผลประกอบคำอธิบาย
ตอบ เห็นด้วย เนื่องจากปัญหาต่างๆจะไม่เกิดขึ้นเลยหากรัฐบาลยอมรับฟังเหตุผลของคนที่ออกมาเรียกร้องขอปฏิรูปการเลือกตั้งก่อน เพราะประชาชนเหล่านี้เห็นว่าการที่เดินหน้าเลือกตั้งไม่ใช่ทางออกที่ดีแต่เมื่อเลือกตั้งแล้วผลที่ออกมารัฐบาลที่ได้มาเพราะการซื้อเสียงสุดท้ายประเทศก็จะกลับมาอยู่แบบเดิมไม่มีการพัฒนา แต่กลับยิ่งย่ำแย่หากความก้าวหน้าตกไปอยู่ที่บุคคลที่โกงกินชาติบ้านเมือง ประชาชนเหล่านี้เน้นย้ำเสมอว่าพวกเขายังเคารพการเลือกตั้งที่เรียกได้ว่าเป็นประชาธิปไตยเพียงแต่
พวกเขาต้องการให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างโปร่งใส
ได้รัฐบาลที่มีความสามารถมาบริหารประเทศ
ประเทศไม่ตกอยู่ภายใต้อำนาจมืดของใครคนใดคนหนึ่ง ถ้ารัฐบาลไม่มีเรื่องผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องจริงรัฐบาลก็ควรถอยเพื่อให้ประเทศชาติได้ปฏิรูปก่อน
ให้คนอื่นที่ประชาชนส่วนใหญ่ยอมรับเข้ามาบริหารประเทศดูบ้าง ว่ามีความเปลี่ยนแปลงมากน้อยแค่ไหน
ถ้ารัฐบาลชุดนี้บริหารประเทศดีจริงเชื่อว่าสักวันประชาชนคงให้การยอมรับเข้ามาทำหน้าที่อีกครั้ง แต่ตอนนี้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ารัฐบาลชุดนี้ต้องพิจารณาตัวเองและถอยออกไปก่อนที่จะไม่มีที่ให้ยืน
5.การเลือกตั้งล่วงหน้ามีข้อคัดแย้งระหว่างรัฐบาลกับมวลมหาประชาชนและประชาชนที่รัฐบาลจัดตั้ง(คนเสื้อแดง)และนำประชาชนชาวเขมรเพื่อนำมาเข่นฆ่าคนไทยท่านเห็นด้วยกับรัฐบาลหรือไม่
ยกเหตุผลประกอบคำอธิบาย
ตอบ ไม่เห็นด้วย
เนื่องจากความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องการเมืองภายในประเทศไม่จำเป็นที่จะต้องนำคนนอกประเทศมาเกี่ยวข้อง
เพราะจะทำให้เรื่องบานปลาย
เกิดความวุ่นวาย
นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบในเรื่องของความขัดแย้งระหว่างประเทศ และจะเห็นได้ว่ารัฐบาลชุดนี้พยายามดำรงตำแหน่งหน้าที่ทางการเมืองแต่ไม่ได้พัฒนาประเทศมีแต่การจะกอบโกยผลประโยชน์ของประเทศโดยไม่ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ทำให้รัฐบาลชุดนี้ ไม่มีความชอบธรรมเพราะตอนนี้คนส่วนใหญ่ออกมาเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่ง
แต่รัฐบาลยังคงต่อต้านเพราะคิดว่าการที่ตนได้มาเป็นรัฐบาลนั้นมาจากเสียงส่วนใหญ่และนั้นคือประชาธิปไตยแล้ว แต่จริงๆถ้ามองให้ดีรัฐบาลชุดนี้ไม่ได้ยึดถือประชาธิปไตยอย่างแท้จริงเนื่องจากถ้าเขายังถือประชาธิปไตยที่ยึดเสียงส่วนใหญ่ที่ว่าก็จริง แต่ก็ควรฟังเสียงประชาชนอีกฝ่ายหนึ่งด้วย
ไม่ใช่เมื่อพวกเขาไม่เห็นด้วยรัฐบาลจะใช้ความรุนแรงโดยให้คนอื่นที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของประเทศมาเข่นฆ่าคนไทย เพราะประชาชนเหล่านี้มีสิทธิ เสรีภาพ
ความเสมอภาพเท่าเทียมกัน รัฐบาลจึงควรรับฟังและแก้ปัญหาโดยการพูดคุยไม่ใช่ใช้ให้คนอื่นมาใช้ความรุนแรงกับคนในประเทศ
แล้วแบบนี้ยังจะเรียกตนเองว่าเป็นผู้นำได้อย่างไรในเมื่อท่านยังยืมมือคนอื่นมาฆ่าประชาชนคนในปกครอง
6.พระราชบัญญัติการศึกษาเปรียบเสมือนรัฐธรรมนูญการศึกษา
ท่านเห็นด้วยกับประเด็นนี้หรือไม่ อธิบายให้เหตุผล
ตอบ เห็นด้วย กับ “ พระราชบัญญัติการศึกษาเปรียบเสมือนรัฐธรรมนูญการศึกษา ” เพราะในรัฐธรรมนูญก็ได้มีสาระสำคัญของการศึกษาเขียนไว้
และพระราชบัญญัติการศึกษาก็เป็นส่วนหนึ่งที่ร่างขึ้นมาโดยใช้รัฐธรรมนูญการศึกษา
เป็นหัวใจสำคัญและเป็นแนวทางในการร่างและเขียนพระราชบัญญัติการศึกษา ขึ้นมา
เพื่อนำมาประกาศใช้และใช้เพื่อพัฒนาคนไทยทุกคนให้มีการศึกษาทุกคนอย่างทั่วถึงและต่อเนื่อง
ตามจุดมุ่งหมายของการพัฒนาศักยภาพคนไทย
7.ในการจัดการศึกษานักศึกษาคิดว่ามีความมุ่งหมายและหลักการจัดการในการจัดการศึกษา อย่างไร
ตอบ ความมุ่งหมายของการจัดการศึกษา เป็นการกำหนดจุดมุ่งหมายทั่วไปที่เป็นอุดมการณ์ของการศึกษา
หรือปรัชญาการศึกษาที่มุ่งพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ในมิติต่างๆ
ที่ถือว่าสำคัญทางการศึกษา ได้แก่ ร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้และคุณธรรมและเนื่องจากจุดเน้นในส่วนนี้อาจจะทำให้เกิดการแปลความไปได้ว่ามุ่งพัฒนา
"ปัจเจกบุคคล" เพียงด้านเดียว
ฉะนั้นจึงได้กำหนดต่อไปว่า การพัฒนาดังกล่าวนั้น7.ในการจัดการศึกษานักศึกษาคิดว่ามีความมุ่งหมายและหลักการจัดการในการจัดการศึกษา อย่างไร
มุ่งให้คนไทย "มีจริยธรรมและวัฒนธรรมในการดำรงชีวิตสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข"
การเพิ่มมิติด้านสังคมนี้เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่มีความสมดุลระหว่างส่วนบุคคลและส่วนรวม
หลักการสำคัญของการจัดการศึกษาตามพระราชบัญญัติฉบับนี้กำหนดไว้ 3 ข้อ
ซึ่งจำเป็น
ต้องขอขยายความดังนี้
ต้องขอขยายความดังนี้
1. เป็นการศึกษาตลอดชีวิตสำหรับประชาชน
2. ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
3. การพัฒนาสาระและกระบวนการเรียนรู้ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง
8.มีบุคคลหนึ่งเข้าไปเป็นครูสอนหนังสือในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานอยู่เป็นประจำกรณีมิได้รับการบรรจุเป็นครู หากพิจารณาตามกฎหมายถ้าผิดกฎหมายท่านคิดว่าจะถูกลงโทษอย่างไร หากไม่ผิดกฎหมายท่านคิดว่าจะมีวิธีการทำอย่างไร
8.มีบุคคลหนึ่งเข้าไปเป็นครูสอนหนังสือในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานอยู่เป็นประจำกรณีมิได้รับการบรรจุเป็นครู หากพิจารณาตามกฎหมายถ้าผิดกฎหมายท่านคิดว่าจะถูกลงโทษอย่างไร หากไม่ผิดกฎหมายท่านคิดว่าจะมีวิธีการทำอย่างไร
ตอบ ไม่ผิด เพราะ
ในพระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางศึกษา พ.ศ.2546 ได้กำหนดไว้ว่าห้ามมิให้ผู้ใดประกอบวิชาชีพควบคุม
โดยไม่ได้รับใบอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้ เว้นแต่กรณีอย่างใดอย่างหนึ่ง
ดังต่อไปนี้
1. ผู้ที่เข้ามาให้ความรู้แก่ผู้เรียนในสถานศึกษาเป็นครั้งคราวในฐานะวิทยากรพิเศษทางการศึกษา
2.ผู้ที่ไม่ได้ประกอบวิชาชีพหลักทางด้านการเรียนการสอนแต่ในบางครั้งต้องทำหน้าที่สอนด้วย
3.นักเรียน นักศึกษา
หรือผู้รับการฝึกอบรมหรือผู้ได้รับใบอนุญาตปฏิบัติการสอน
ซึ่งทำการฝึกหัดหรืออบรมในความควบคุมของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาซึ่งเป็นผู้ให้การศึกษาหรือฝึกอบรม
ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการคุรุสภากำหนด
4. ผู้ที่จัดการศึกษาตามอัธยาศัย
5. ผู้ที่ทำหน้าที่สอนในศูนย์การเรียนตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ
หรือสถานที่เรียนที่หน่วยงานจัดการศึกษานอกระบบและตามอัธยาศัย บุคคล ครอบครัว
ชุมชน องค์กรชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรเอกชน องค์กรวิชาชีพ
สถาบันศาสนา สถานประกอบการ โรงพยาบาล สถาบันทางการแพทย์ สถานสงเคราะห์
และสถาบันสังคมอื่นเป็นผู้จัด
6. คณาจารย์ ผู้บริหารสถานศึกษา
และผู้บริหารการศึกษาในระดับอุดมศึกษาระดับปริญญาทั้งของรัฐและเอกชน
7. ผู้บริหารการศึกษาระดับเหนือเขตพื้นที่การศึกษา
8. บุคคลอื่นตามที่คณะกรรมการคุรุสภากำหนดซึ่งผู้ที่เข้าไปสอนอาจจะกระทำในกรณีใดกรณีหนึ่งซึ่งถูกต้องตามกฎหมาย
ซึ่งก็ไม่ต้องแก้ไขอะไร
แต่หากว่าอยากจะเข้าไปสอนในสถานศึกษาเป็นกรณีประจำก็ควรจะไปสอบบรรจุให้เรียบร้อยเพื่อจะได้ไม่เป็นปัญหาในภายหลัง
9.หากนักศึกษาต้องการสอบบรรจุเป็นครูผู้ช่วยจะต้องมีคุณสมบัติอย่างไร
9.หากนักศึกษาต้องการสอบบรรจุเป็นครูผู้ช่วยจะต้องมีคุณสมบัติอย่างไร
ตอบ 1.มีวุฒิไม่ต่ำกว่า
ป.ตรีทางการศึกษา หรือทางอื่นที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
(ก.ค.ศ.) กำหนดเป็นคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งนี้
2.มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู หรือใบอนุญาตปฏิบัติการสอน
3. ไม่เป็นพระภิกษุสามเณร นักพรต นักบวช
10.ให้นักศึกษาแสดงความคิดเห็นว่าเมื่อเรียนวิชานี้
นักศึกษาได้อะไรบ้างครูผู้สอนวิชาชีพโดยใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ Weblog มีความเหมาะสมและเป็นไปได้อย่างไร วิจารณ์แสดงความคิดเห็น และนักศึกษาคิดว่าตนเองจะได้เกรดอะไร
ตอบ จะเห็นได้ว่าสิ่งที่เรียนมาทั้งหมด โดยเฉพาะเรื่องกฎหมาย
เรียกได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องเรียนรู้ยึดถือและปฏิบัติ ก่อนหน้านี้กระผมคิดว่ากฎหมายเป็นเรื่องไกลตัว
แต่เมื่อได้มาเรียนวิชานี้ทำให้กระผมเปลี่ยนมุมมองความคิดและเห็นความสำคัญมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับครู
ซึ่งกระผมคิดว่าคนที่จะเป็นครูนอกจากจะมีความรู้ในศาสตร์วิชาเอกแล้วก็จะต้องรู้กฎหมายควบคู่ไปด้วยจะได้ไม่กระทำความผิด
และรู้จักรักษาสิทธิ์ของตนเองที่มีทางกฎหมาย
และการที่อาจารย์ผู้สอนได้ใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เข้ามาเกี่ยวข้องในการสอนนั้นเป็นสิ่งที่ดีและกระผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งเพราะ
ปัจจุบันนี้เทคโนโลยีมีความก้าวหน้าและพัฒนาไปมากหากเรานำมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมก็จะเป็นสื่อการสอนที่มีประสิทธิภาพได้ ผู้เรียนจะได้รับความรู้ทั้งในส่วนของเนื้อหาและสามารถใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ได้ และจะเห็นได้ว่าWeblog
เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ช่วยให้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทุกที สะดวก รวดเร็ว
ทั้งนี้กระผมคิดว่าต่อไปภายหน้าการเรียนรู้ก็จะต้องมาควบคู่กับเทคโนโลยี กระผมจึงคิดว่าการเรียนแบบนี้เป็นวิธีการหนึ่งที่จะทำให้กระผมได้รับทั้งความรู้ในส่วนของรายวิชาและการได้นำความรู้นั้นมาสรุปรวบรวมเป็นองค์ความรู้ความเข้าใจสามารถเผยแพร่ให้ผู้อื่นได้แสดงความคิดเห็นและได้รับความรู้อย่างหลากหลายไม่จำกัดว่าผู้ที่เข้ามาศึกษาจะเป็นใคร
จึงเป็นอีกวิธีการหนึ่งที่จะช่วยให้เกิดการเรียนรู้ที่หลากหลายขึ้นเพียงแค่นำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ตลอด 1 ภาคเรียนที่ผ่านมาในรายวิชานี้กระผมคิดว่า สำหรับกระผมแล้วเกรดที่น่าจะเหมาะสมที่สุด คือ A เนื่องจากอยู่ในระดับเหมาะสมกับความรู้และความสามารถที่ได้รับจากวิชานี้