1.ใครเป็นผู้ขอพระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับแรก
และมีเหตุผลอย่างไร และประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษา เป็นอย่างไร อธิบาย
ตอบ ผู้ขอพระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับแรกคือ สมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาประชาธิปกฯ
พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7
มีเหตุผลดังนี้ “บัดนี้การศึกษาสูงขึ้นแล้ว
มีข้าราชการประกอบด้วยวุฒิปรีชาในรัฐาภิปาลนโยบายสามารถนำประเทศของตน
ในอันที่จะก้าวหน้าไปสู่สากลอารยธรรมแห่งโลกโดยสวัสดี
สมควรแล้วที่จะพระราชทานพระบรมวโรกาส ให้ข้าราชการและประชาชนของพระองค์
ได้มีส่วนมีเสียงตามความเห็นดีเห็นชอบในการจรรโลงประเทศสยามให้วัฒนาการในภายภาคหน้า”
ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาคือ
ต้องการให้มีการจัดการศึกษาประเด็นเกี่ยวกับการศึกษา
คือ ให้สิทธิเสรีภาพกับทุกคนในการศึกษา โดยไม่บังคับการศึกษา
หมวด 2 สิทธิและหน้าที่ของชนชาวสยาม มาตรา 14
ภายในบังคับแห่งกฎหมายบุคคลย่อมมีเสรีภาพบริบูรณ์ภายในร่างกายเคหสถาน ทรัพย์สิน
การพูด การเขียน การโฆษณา การศึกษาอบรม การประชุมโดยเปิดเผย การตั้งสมาคม การอาชีพ
2.แนวนโยบายแห่งรัฐในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาของรัฐธรรมนูญฯพุทธศักราช
2492 ได้กำหนดอย่างไรอธิบาย
ตอบ เมื่อปีพุทธศักราชที่ 2492
ได้กำหนดเกี่ยวกับการศึกษาดังนี้ คือได้กำหนดเสรีภาพให้กับประชาชนเกี่ยวกับการศึกษา
โดยไม่มีการบังคับไดๆ หรือเมื่อปีศักราช 2492
ไม่ได้ตระหนักเกี่ยวกับการศึกษามากมายเพราะจะมอบอำนาจและสิทธิให้ประชาชนโดยไม่บังคับให้ศึกษา
วางหลักประกันสิทธิและเสรีภาพของชน ชาวไทยให้มั่นคงยิ่งขึ้น
กำหนดแนวนโยบายแห่งรัฐ เพื่อช่วยรักษาไว้ซึ่งความต่อเนื่องกันโดยสม่ำเสมอในการบริหารราชการ
แก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติว่าด้วยอำนาจหน้าที่ของวุฒิสภา บางประการ ขยายอำนาจรัฐสภาให้อันที่จะควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินให้ความเสมอภาคกับบุคคลในการเข้ารับการศึกษาตามความสามารถของบุคคลนั้นๆ
ให้บุคคลมีหน้าที่รับการศึกษาอบรมชั้นประถมศึกษาทำให้พลเมืองมีความรู้ความสามารถที่จะประกอบอาชีพมีจิตใจเป็นประชาธิปไตย
รัฐจะส่งเสริมและบำรุงการศึกษาอบรมของสถานศึกษาที่อยู่ภายในการควบคุมดูแลและการศึกษาชั้นประถมศึกษาในสถานศึกษาของรัฐและของเทศบาลจะต้องจัดให้โดยไม่เก็บค่าเล่าเรียนรัฐจะต้องช่วยเหลือในด้านอุปกรณ์การศึกษาและการค้นคว้าในทางศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์
3. เปรียบเทียบแนวนโยบายแห่งรัฐประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาของรัฐธรรมนูญฯพุทธศักราช 2511 พุทธศักราช 2517 และพุทธศักราช 2521 เหมือนหรือต่างกันอย่างไรอธิบาย
ตอบ การศึกษาเมื่อปีพุทธศักราช
2511 2517 2521 มีความแตกต่างกัน ดังนี้
พุทธศักราช 2511 เกี่ยวกับการศึกษาคือ บุคคลย่อมมีเสรีภาพสมบูรณ์เกี่ยวกับการศึกษา
เมื่อการศึกษาอบรมนั่นไม่เป็นปรปักษ์ต่อหน้าที่ของพลเมืองตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาอบรม
และไม่ขัดต่อกฎหมายเกี่ยวกับการจัดสรรสถานศึกษา
พุทธศักราช 2517การศึกษาเริ่มเปลี่ยนไปเพราะทุกคนย่อมมีสิทธิเสรีชนในการศึกษาเท่าเทียบเสมอกันในการศึกษาขั้นมูลฐาน
ตามกฎหมายว่าด้วยการบังคับ บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการศึกษาอบรม
เมื่อไม่ขัดต่อหน้าที่ของพลเมืองตามรัฐธรรมนูญ
และไม่ขัดต่อกฎหมายว่าด้วยการศึกษาภาคบังคับ และการจัดตั้งสถานศึกษา
พุทธศักราช 2521การศึกษาเริ่มมีการส่งเสริมบำรุงการศึกษาการอบรมและฝึกอบรมตามความเหมาะสมและความต้องการของประเทศ
การจัดการศึกษาอบรมเป็นหน้าที่ของรัฐโดยเฉพาะสถานศึกษาทั้งปวงย่อมอยู่ภาคใต้การควบคุมดูแลของรัฐ
ช่วยเหลือผู้ยากไร้ให้ได้รับทุนและปัจจัยต่างๆในการศึกษา
4.ประเด็นที่ 1 รัฐธรรมนูญฯพุทธศักราช 2475-2490 ประเด็นที่ 2 รัฐธรรมนูญฯพุทธศักราช
2549-2517 ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาเหมือนหรือต่างกันอย่างไรอธิบาย
ตอบ ประเด็นที่ 1 รัฐธรรมนูญฯ พุทธศักราช 2475-2490 มีความแตกต่างกัน ดังนี้
พุทธศักราช 2475
ทุกคนย่อมมีเสรีภาพบริบูรณ์ภายในร่างกายเคหสถานทรัพย์การพูดการเขียนการโฆษณาการศึกษาอบรมการประชุมเปิดเผยและการตั้งสมาคมการอาชีพ
พุทธศักราช 2489
ทุกคนย่อมมีเสรีภาพบริบูรณ์ภายในร่างกายเคหสถานทรัพย์การพูดการเขียนการโฆษณาการศึกษาอบรม
การชุมนุม สาธารณะการตั้งคณะกรรมการ การเมือง
การอาชีพภายใต้บังคับแห่งบทกฎหมาย
พุทธศักราช
2490
ทุกคนย่อมมีเสรีภาพบริบูรณ์ในการศึกษาอบรม
สถานศึกษาของรัฐและเทศบาลต้องให้ความเสมอภาคในการเข้าศึกษาอบรมตามความสามารถทั้งนี้การศึกษาอบรมต้องมีจุดประสงค์ที่จะให้ชนชาวไทยมีร่างกายแข็งแรงอนามัยสมบูรณ์มีความรู้ความสามารถในการประกอบอาชีพสถานศึกษาของรัฐและเทศบาลจะต้องไม่เก็บค่าเล่าเรียนและสนับสนุนอุปกรณ์ในการศึกษา
ประเด็นที่ 2 รัฐธรรมนูญฯพุทธศักราช 2492-2517 ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาเหมือนหรือต่างกันดังนี้
พุทธศักราช
2492
ทุกคนย่อมมีเสรีภาพบริบูรณ์ในการศึกษาอบรม
สถานศึกษาของรัฐและเทศบาลต้องให้ความเสมอภาคในการเข้าศึกษาอบรมตามความสามารถทั้งนี้การศึกษาอบรมต้องมีจุดประสงค์ที่จะให้ชนชาวไทยมีร่างกายแข็งแรงอนามัยสมบูรณ์มีความรู้ความสามารถในการประกอบอาชีพสถานศึกษาของรัฐและเทศบาลจะต้องไม่เก็บค่าเล่าเรียนและสนับสนุนอุปกรณ์ในการศึกษา
พุทธศักราช 2511
ทุกคนย่อมมีเสรีภาพบริบูรณ์ในการศึกษาอบรม
สถานศึกษาของรัฐและเทศบาลต้องให้ความเสมอภาคในการเข้าศึกษาอบรมตามความสามารถทั้งนี้การศึกษาอบรมต้องมีจุดประสงค์ที่จะให้ชนชาวไทยมีร่างกายแข็งแรงอนามัยสมบูรณ์มีความรู้ความสามารถในการประกอบอาชีพสถานศึกษาของรัฐและเทศบาลจะต้องไม่เก็บค่าเล่าเรียนและสนับสนุนอุปกรณ์ในการศึกษา สนับสนุนการวิจัยในศิลปวิทยาและวิทยาศาสตร์
พุทธศักราช
2517 ทุกคนมีสิทธิ์เสมอกันในการรับการศึกษาขั้นมูลฐานตามกฎหมายการศึกษาภาคบังคับ
สถานศึกษาของรัฐและของท้องถิ่นจะต้องช่วยเหลือผู้ยากไร้เพื่อให้ได้รับทุนในการศึกษาและส่งเสริมการศึกษาสถิติ วิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยีในการพัฒนาประเทศ
5. ประเด็นที่ 3 รัฐธรรมนูญฯพุทธศักราช 2521-2534 ประเด็นที่ 4 รัฐธรรมนูญฯพุทธศักราช 2540-2550 ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาเหมือนหรือต่างกันอย่างไรอธิบาย
ตอบ การศึกษาเมื่อปีพุทธศักราช 2521-2534 และ พุทธศักราช 2540-2550
มีความแตกต่างกัน ดังนี้
พุทธศักราช 2521-2534คือ
รัฐพึงส่งเสริมการศึกษาและบำรุงการศึกษาอบรม การจัดระบบการศึกษาอบรมเป็นหน้าที่ของรัฐโดยเฉพาะสถานศึกษาทั้งปวงย่อมอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของรัฐ
แต่ในปี
พุทธศักราช 2540-2550คือ
การศึกษาหรือบุคคลย่อมมีสิทธิเสมอกันในการรับการศึกษาไม่น้อยกว่า 12 ปี
ที่รัฐจะต้องจัดให้อย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ ที่แตกต่างกันก็คือ
เมื่อปีพุทธศักราช 2521-2534 การศึกษาไม่บังคับ แต่เมื่อพุทธศักราช 2540-2550
การศึกษามีการบังคับการศึกษา
6.เหตุใดรัฐธรรมนูญแต่ละฉบับจะต้องระบุในประเด็นที่รัฐจะต้องจัดการศึกษาอย่างเป็นธรรมและทั่วถึงอธิบาย
ตอบ สาเหตุที่รัฐธรรมนูญต้องระบุในประเด็นการศึกษาอย่างเป็นธรรมและทั่วถึงก็เพราะรัฐธรรมนูญต้องการให้การศึกษาของไทยเป็นไปอย่างมีระบบ
และต้องการให้มีการศึกษาที่สอดคล้องกันและมีการบังคับการศึกษาที่แน่นอนเพื่อให้หน่วยงานของรัฐรับผิดชอบในด้านต่างๆเกี่ยวกับการศึกษา
นี่คือประเด็นที่รัฐธรรมนูญต้องจัดประเด็นการศึกษาอย่างเป็นทางการและมีทุกพุทธศักราชที่พูดเกี่ยวกับการศึกษา
7.เหตุใดรัฐจึงต้องกำหนด “บุคคลมีหน้าที่รับการศึกษาอบรมตามเงื่อนไขและวิธีการที่กฎหมายบัญญัติ” จงอธิบายหากไม่ปฏิบัติจะเกิดอะไรขึ้น
ตอบ เหตุผลที่รัฐบาลต้องกำหนด บุคคลให้มีการศึกษา ก็เพราะ จะได้มีความรู้
ความสามารถและรู้เท่าทันบุคคลอื่นและอยู่ร่วมกับคนในสังคมต้องการให้คนมีการศึกษาติดตัวไป
และต้องการให้มีความรู้เพื่อที่จะประกอบอาชีพและการทำงานและสามารถเลี้ยงตนเองได้
หากไม่ปฏิบัติปัญหาที่จะเกิดขึ้นก็คือ
ทำให้การศึกษาไทยตกต่ำและมีปัญหาในการทำงานหรือหน่วยงานต่างๆไม่ยอมรับบุคคลที่ขาดความรู้เข้าทำงานในสถานที่ต่างๆหรือพูดเป็นภาษาบ้านๆว่าทำให้คนโง่
หากรัฐไม่กำหนดให้บุคคลมีหน้าที่จะต้องศึกษา
8.การจัดการศึกษาที่เปิดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาหากเราพิจารณารัฐธรรมนูญมีฉบับใดบ้างที่ให้องค์กรส่วนท้องถิ่นมีส่วนร่วมและถ้าเปิดโอกาสให้ท้องถิ่นมีส่วนร่วมมากขึ้นท่านคิดว่าเป็นอย่างไรจงอธิบาย
ตอบ รัฐธรรมนูญสนับสนุนให้ท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาและมีการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนให้ประชาชนมีบทบาทและมีส่วนร่วมในการปกครองและตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐอย่างเป็นรูปธรรม
ทำให้รัฐธรรมนูญเกือบทุกฉบับที่สนับสนุนให้ท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
และหากเปิดโอกาสให้องค์กรส่วนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา คิดการศึกษาก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่เพราะองค์กรส่วนท้องถิ่นสามารถตีโจทย์ความต้องการของประชาชนหรือความต้องการของลูกหลานได้ว่าต้องการศึกษาในรูปแบบใด
นี่คือส่วนหนึ่งที่ดีในการจัดการให้องค์กรมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
9.เหตุใดการจัดการศึกษารัฐต้องคุ้มครองและพัฒนาเด็กและเยาวชนส่งเสริมความเสมอภาคทั้งหญิงและชายพัฒนาความเป็นปึกแผ่นของครอบครัวและความเข็มแข็งของชุมชนสังเคราะห์ผู้ยากไร้ผู้พิการหรือทุพพลภาพและผู้ด้อยโอกาสจงอธิบาย
ตอบ สำหรับสาเหตุที่รัฐจะต้องจัดการศึกษาให้คุ้มครองและพัฒนาเด็กและเยาวชน
ส่งเสริมการศึกษาให้เท่าเทียบกันก็เพราะว่า
รัฐต้องการเห็นคนทุกประเภทมีความรู้ความสามารถในทุกระดับโดยไม่ตั้งข้อแบ่งแยกกับทุกคนที่ขาดทุนในการศึกษา
และประเด็นที่สำหรับที่รัฐต้องทำเพราะรัฐต้องการให้การศึกษาของไทยและคนไทยมีความรู้
ความสามัคคีกันในทุกๆระดับการศึกษา รัฐต้องจัดการศึกษาอบรมและสนับสนุนให้เอกชนจัดการศึกษาอบรมให้เกิดความรู้คู่คุณธรรมจัดให้มีกฎหมายการศึกษาแห่งชาติ
ปรับปรุงการศึกษาให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม
สร้างเสริมความรู้และปลูกจิตสำนึกที่ถูกต้องเกี่ยวกับการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
สนับสนุนการค้นคว้าวิจัยในศิลปวิทยาการต่าง ๆ
เร่งรัดพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาประเทศ
พัฒนาวิชาชีพครูและส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น
10.ผลการจัดการศึกษาที่ผ่านมาของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมีผลต่อการพัฒนาประเทศอย่างไรบ้างจงอธิบาย
ตอบ สำหรับรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมีผลต่อการพัฒนาประเทศคือพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการจัดการศึกษาในทุกระดับและทุกรูปแบบให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม
จัดให้มีแผนการศึกษาแห่งชาติ กฎหมายเพื่อพัฒนาการศึกษาของชาติ
จัดให้มีการพัฒนาคุณภาพครูและบุคลากร ทางการศึกษาให้ก้าวหน้าทันการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก
รวมทั้งปลูกฝังให้ผู้เรียนมีจิตสานึกของความเป็นไทย มีระเบียบวินัย
คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมและสำหรับรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมีผลต่อการพัฒนาประเทศคือ
ทำให้ประเทศเป็นระบบระเบียบและมีกฎหมายเอาผิดสำหรับบุคคลที่ทำผิดกฎหมาย จึงทำให้การพัฒนาประเทศเป็นไปอย่างง่ายดายและมั่นคงมีการศึกษาที่เน้นให้คนในประเทศมีการศึกษาที่แน่นอน และมีการบังคับให้การศึกษาอยู่ในระดับใด
ดั้งนั้นการพัฒนาประเทศจะเริ่มต้นได้จาก
ผู้ปกครองประเทศร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ หากพัฒนาด้านใดด้านหนึ่งอีกด้านก็จะดีไปด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น